คุณแม่ที่มีอาการเต้าอักเสบ มักมีอาการปวด เต้าบวม แดง ร้อนบริเวณเต้านม และอาจมีไข้ร่วมด้วย หากไม่ได้รับการดูแลรักษาที่เหมาะสม อาจทำให้มีการติดเชื้อของเนื้อเยื่อเต้านม ต้องใช้ยาปฏิชีวนะในรักษา และอาจทำให้เป็นฝีหนองได้

อาการ ของเต้านมอักเสบ ได้แก่

1. เต้านมไวต่อการสัมผัสมาก รู้สึกเจ็บ เพียงแค่โดนก็รู้สึกเจ็บ
2. รู้สึกอ่อนเพลีย เหมือนไม่สบาย
3. เต้านมบวม แดง เป็นก้อนขึ้นมา
4. เวลาให้นม หรือปั๊มนม คุณแม่จะเจ็บปวด แสบ หากอักเสบมาก คุณแม่จะรู้สึกเจ็บหรือแสบเต้าตลอดเวลา
5. ผิวเต้านมตรงที่อักเสบจะแดง มักเป็นรูปปิรามิด สังเกตดูเป็นสามเหลี่ยม หรือโคนไอศกรีม
6. มีไข้มากกว่า 38.3 องศาเซลเซียส
7. มักเป็นข้างเดียว แต่บางท่านอาจเป็นสองข้างพร้อมกันได้

สาเหตุของเต้านมอักเสบ

1. น้ำนมระบายออกไม่ทันจนส่งผลให้เกิดท่อน้ำนมอุดตัน และทิ้งไว้นาน โดยไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้อง จนเกิดการอักเสบ น้ำนมที่คั่งค้างอาจเปลี่ยนเป็นถุงซิสท์น้ำนม (galactocoele) หรือ พัฒนากลายเป็นฝี ในที่สุด
2. การที่คุณแม่หัวนมแตก และเชื้อแบคทีเรียที่อยู่บนผิวหนังของคุณแม่ หรือ เชื้อแบคทีเรียในช่องปากลูกผ่านแผลดังกล่าว เข้าไปในท่อน้ำนม
3. น้องดูดไม่เก่ง หรือท่าเข้าเต้าไม่ถูกต้อง ทำให้น้ำนมระบายออกไม่หมด
4. ปั๊มนมไม่เกลี้ยงเต้า ตกรอบปั๊มนม ทั้งนี้คุณแม่ควรเลือกใช้เครื่องที่เหมาะสม เลือกกรวยให้เข้ากับสรีระของเต้านม หัดบีบน้ำนมด้วยมือ และไม่ตกรอบปั๊ม
5. การสวมเสื้อในที่คับแน่นเกินไป ทำให้น้ำนมไหลออกได้ไม่ดีนักโดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนปั๊มนม
6. การรับประทานอาหารหวาน มัน ทอด เป็นประจำ

ทำอย่างไรเมื่อเต้านมอักเสบ

• อย่าหยุดให้นมลูก แต่ควรให้ลูกดูดเต้าที่มีปัญหาเป็นข้างแรก จัดให้คางของลูกอยู่บริเวณที่มีก้อน
• ให้ลูกเข้าเต้า หรือ ปั๊มนมให้ถี่ขึ้น หลีกเลี่ยงการตกรอบปั๊มนม
• จัดท่าให้คางลูกอยู่ตรงตำแหน่งที่เป็นก้อน อาจต้องตีลังกาดูด ถ้าก้อนอยู่ด้านบน
• หากพบว่ามีไวท์ ดอท หรือ จุดสีขาวคล้ายสิว บริเวณหัวนม ให้ใช้เข็มสะอาดที่ผ่านการฆ่าเชื้อ ในการสะกอดออก