สาเหตุ อาการ และ การดูแลผู้ป่วยเบาหวาน

เบาหวานสาเหตูการรักษา1_0

โรคเบาหวาน

โรคเบาหวาน จัดเป็นโรคเรื้อรัง เกิดจากประสิทธิภาพการสร้างฮอร์โมนอินซูลินของตับอ่อนลดลง ส่งผลให้ร่างกายไม่สามารถเผาผลาญอาหารประเภทแป้ง และน้ำตาลได้อย่างมีประสิทธิภาพ

อาการบ่งชี้ของโรคเบาหวาน

  • ปัสสาวะบ่อยโดยเฉพาะตอนกลางคืน เนื่องจากร่างกายจะดึงเอาน้ำตาลส่วนเกินออกมาพร้อมกับปัสสาวะ นอกจากนี้อาจมีมดขึ้นปัสสาวะด้วย
  • คอแห้ง กระหายน้ำเนื่องจากกลไกปัสสาวะจะมีการดึงเอาน้ำ และน้ำตาลส่วนเกินออกจากร่างกายด้วย ทำให้ผู้ป่วยหิวน้ำบ่อยมากขึ้นได้
  • แผลหายช้าเนื่องจากเส้นเลือดตีบ ส่งผลใหลือดม่สามารถเข้าไปหล่อเลี้ยงได้เพียงพอ แผลจึงสมานได้ช้า แผลเบาหวานมักเกิดที่เท้า และมักมีการติดเชื้อร่วมด้วย
  • สายตาพร่ามัว
  • มีอาการคันตามส่วนต่างๆของร่างกายเนื่องจากเหงื่อที่ถูกผลิตออกมามีปริมาณของน้ำตาลที่ค่อนข้างสูง
  • ชาปลายมือ ปลายเท้า
  • ความรู้สึกทางเพศลดลง
  • รับประทานอาหารอย่างถูกต้องตามหลักโภชนาการ ในปริมาณที่พอเหมาะ
  • หลีกเลี่ยงอาหารที่ประกอบด้วยน้ำตาล และ คาร์โบไฮเดรตปริมาณมาก เช่น ขนมหวาน แป้ง เครื่องดื่มที่มีน้ำตาล
  • ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
  • ควบคุมน้ำหนัก
  • หมั่นตรวจน้ำตาล เพื่อให้ทราบระดับน้ำตาลในเลือด
  • ดูแลทำความสะอาดเท้า ระมัดระวังอย่าให้เกิดบาดแผล
  • รับประทานยาตามแพทย์สั่งอย่างต่อเนื่อง
  1. ช่วยให้เซลล์ของร่างกายไวต่ออินซูลินมากขึ้น ทำให้ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด
  2. เพิ่มการไหลเวียนของเลือดทั้งร่างกาย ป้องกันภาวะแทรกซ้อนของโรคเบาหวานเช่น แผลที่เท้า ไขมันในเลือดสูง ความดันโลหิตสูงและโรคหัวใจ
  3. ช่วยควบคุมน้ำหนักของร่างกาย
  4. ช่วยลดปริมาณยาที่ต้องรับประทาน รวมทั้งการฉีดอินซูลิน

ข้อควรระวัง

หากเคยมีภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ หรือฉีดยาอินซูลิน ควรตรวจเช็คระดับน้ำตาลในเลือดก่อน ระหว่างและหลังออกกำลังกาย

เสี่ยงเบาหวานหรือไม่ เลือกวิธีตรวจคัดกรองเบาหวานที่ตอบโจทย์

เพราะโรคเบาหวานในระยะแรกๆ หรือระยะก่อนเป็น มักไม่มีอาการแสดงให้เรารู้ตัว การตรวจคัดกรองเบาหวานจึงช่วยให้เราทราบว่าระดับน้ำตาลในเลือดใกล้สูงจนถึงจุดที่จะเป็นโรคเบาหวานหรือไม่ ซึ่งเป็นการช่วยลดความเสี่ยง เพราะเราสามารถปรับพฤติกรรมเพื่อการป้องกันโรคได้ ในกรณีที่ตรวจพบว่าเป็นเบาหวาน  หากเป็นในระยะแรกๆ การเข้าสู่กระบวนการรักษาเร็วก็จะให้ผลการรักษาที่ดีกว่าการมาตรวจพบเมื่อเป็นมากแล้ว

ผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง

    • ผู้ที่มีอายุ 35 ปีขึ้นไป
    • ผู้ที่มีภาวะอ้วนลงพุง BMI มากกว่า 25 kg/m2 หรือมีรอบเอวเกินมาตรฐาน
    • ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง โรคหลอดเลือดตีบ
    • คนในครอบครัวเป็นโรคเบาหวาน
    • ความดันโลหิตสูง
    • ไม่ออกกำลังกาย
    • ระดับไขมันในเลือดผิดปกติ
    • เคยเป็นเบาหวานขณะตั้งครรภ์ หรือคลอดบุตรที่มีน้ำหนักตัวแรกเกิดเกิน 4 kg
    • เป็นโรคกลุ่มอาการถุงน้ำในรังไข่

เนื่องจาก “โรคเบาหวาน” เกิดจากระดับน้ำตาลในเลือดที่สูงกว่าปกติ วิธีการตรวจที่นิยมมากที่สุดจึงเป็นวิธีการเจาะเลือดเพื่อนำไปตรวจในห้องปฏิบัติการ (LAB) ซึ่งเป็นวิธีที่สะดวก รวดเร็ว และให้ค่าที่แม่นยำ

การตรวจระดับน้ำตาลในเลือด (Fasting Blood Sugar (FBS) คือการวัดระดับความเข้มข้นของน้ำตาลในเลือด ว่าร่างกายควบคุมน้ำตาลได้ดีหรือไม่ สามารถวินิจฉัยผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงโรคเบาหวานได้ อีกทั้งยังสามารถติดตามระดับน้ำตาลในเลือด ใช้ประเมินผลในการรักษาโรคเบาหวานได้

การตรวจ Glycated Hemoglobin (HbA1c)เป็นการตรวจวัดระดับโปรตีนฮีโมโกลบินในเซลล์เม็ดเลือดแดงที่ถูกจับเกาะด้วยน้ำตาลกลูโคส จะได้ค่าความเข้มข้นของน้ำตาลในเลือดเฉลี่ยสะสมช่วงเวลา 2-3 เดือนที่ผ่านมา 

บทความกายภาพบำบัดสำหรับผู้สูงอายุ

พรีเมียร์ โฮม เฮลท์ แคร์ บริการด้านสุขภาพ ถึงบ้าน อาทิ กายภาพบำบัด บริการเจาะเลือดตรวจแล็ปสุขภาพ ทำแผลถึงบ้าน

สอบถามเพิ่มเติม เกี่ยวกับการปรึกษาและการจองได้ที่