
กรณีข้อเข่าเสื่อม ผู้สูงอายุส่วนมากมักมีอาการปวดเข่าเมื่อยืน เดิน ทั้งนี้อาการดังกล่าวอาจทุเลาลงเมื่อได้พัก
เหตุใดจึงต้องเปลี่ยนข้อเข่า
กรณีที่มีอาการเข่าเสื่อมอย่างรุนแรง ปวด จนกระทบการดำเนินชีวิตประจำวัน
มีการเคลื่อนไหวของข้อที่ผิดปกติ เช่น เหยียดหรืองอเข่าไม่สุด เข่าผิดรูป (เข่าโก่งหรือเกออกด้านนอก)
ผ่านการรักษาด้วยวิธีอื่นมาก่อน แล้วยังไม่ดีขึ้น
ทั้งนี้ผู้ที่เข้ารับการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียมควรมีอายุ 60 ปีขึ้นไป เนื่องจากอุปกรณ์ที่ใส่มีโอกาสสึกหรอได้ตามกาลเวลา หากผ่าตัดก่อนอายุ 40 ปี อาจต้องมีการผ่าตัดครั้งต่อไปตามมา ทั้งนี้โดยปกติแล้วอุปกรณ์จะมีอายุประมาณ 15-20 ปี
อาการที่มักพบหลังผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่า
- ข้อเข่าบวม
- ปวด
- ข้อเข่ายังไม่สามารถเหยียด หรืองอได้สุด
- ยังไม่สามารถลุกขึ้นยืนหรือเดินได้อย่างคล่องแคล่ว
- การดูแลตนเองหลังผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่า
หลีกเลี่ยงการสัมผัสแผลผ่าตัดโดยตรง และไม่แช่น้ำในอ่างจนกว่าแผลผ่าตัดจะหายดี โดยมากมักใช้เวลาประมาณ 5 – 6 สัปดาห์หลังผ่าตัด
- ไม่แกะแผ่นปิดแผลออกเองโดยเด็ดขาด
- หากสังเกตว่าแผลซึมมากขึ้น มีอาการแดงมากขึ้น หรือปวดมากขึ้นรอบ ๆ แผลผ่าตัด รีบปรึกษาแพทย์ผู้ดูแล
- ประคบเย็นบริเวณแผลผ่าตัดเพื่อลดอาการปวดและบวม
- ทำกายภาพบำบัด เพื่อให้สามารถกลับมาใช้ชีวิตประจำวันได้เองโดยเร็วยิ่งขึ้น
โปรโมชั่น กายภาพบำบัด หลังผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่า
รับส่วนลด 5 % เมื่อซื้อแพคเกจกายภาพบำบัดหลังผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าถึงบ้าน (บริการกายภาพบำบัดถึงบ้าน 10 ครั้ง ปกติ 12,000 .-)
โดย พรีเมียร์ โฮม เฮลท์ แคร์ (เครือ รพ.ธนบุรี)
สิ่งที่รวมในแพคเกจ
การตรวจประเมินอาการปวด ความสามารถในการเคลื่อนไหว และความแข็งแรงของกล้ามเนื้อรอบข้อเข่า
การลดบวมด้วย Cold Compression Therapy
Mobilization หรือการขยับเคลื่อนข้อต่อ เพื่อเพิ่มองศาการเคลื่อนไหวในกรณีที่ไม่สามารถงอหรือเหยียดเข่าได้สุด
ออกแบบท่าออกกำลังกายที่เหมาะสม เพื่อเพิ่มความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อรอบ ๆ ข้อเข่า
แนะนำการดูแลและวิธีปฏิบัติตัวที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล
พรีเมียร์ โฮม เฮลท์ แคร์ (เครือ รพ.ธนบุรี) ให้บริการกายภาพบำบัด ถึงบ้าน สำหรับผู้สูงอายุ ผู้ป่วยเรื้อหลัง ผู้ป่วยหลังผ่าตัด อัมพฤกษ์ แขนขาอ่อนแรง เป็นต้น
โทร 02246 6124