
โรคไข้เลือดออก เกิดจากเชื้อไวรัสเดงกี ซึ่งมีด้วยกัน 4 สายพันธุ์ โดยมียุงลายเป็นพาหะ
อาการของโรคไข้เลือดออก มักจะมีอาการหลังจากได้รับเชื้อแล้วประมาณ 5-8 วัน โดยทั่วไปแบ่งอาการตามระดับความรุนแรงของโรค คือ ไข้เลือดออก ไข้เลือดออกชนิดรุนแรง และไข้เลือดออกช็อก ผู้ป่วยไข้เลือดออกที่เคยติดเชื้อไวรัสเดงกี หากได้รับเชื้อชนิดใดไปแล้ว จะมีภูมิคุ้มกันของโรค และไม่ติดเชื้อสายพันธุ์นั้นอีกเป็นเวลา 6-12 เดือน นอกจากว่าผู้ป่วยจะได้รับเชื้อสายพันธุ์อื่น จึงจะป่วยซ้ำด้วยโรคเดิมอีก ในรายที่มีการติดเชื้อซ้ำ อาการของโรคจะมีแนวโน้มความรุนแรง และการพัฒนาไปสู่ภาวะไข้เลือดออกภาวะที่รุนแรงขึ้นได้
การสังเกตอาการป่วย : ผู้ป่วยจะมีไข้สูงเฉียบพลัน ปวดหัวรุนแรง หรือมีเลือดออกง่าย อย่างเลือดกำเดา เลือดออกตามไรฟัน มีห้อเลือดหรือผดผื่นแดงบริเวณผิวหนัง ซึ่งอาการเหล่านี้ล้วนเป็นสัญญาณของการป่วยเป็นโรคไข้เลือดออก ควรรีบไปพบแพทย์
การรักษา : ปัจจุบันยังไม่มียาต้านไวรัสเดงกี่ที่รักษาโรคนี้ได้โดยตรง ผู้ป่วยจึงจำเป็นต้องรักษาตามอาการที่พบ และประคับประคองอาการป่วยไม่ให้รุนแรงขึ้น ระยะแรกเริ่ม แพทย์อาจแนะนำให้รับประทานยาพาราเซตามอล ซึ่งมีฤทธิ์แก้ปวดและลดไข้ ผู้ป่วยไม่ควรใช้ยาแอสไพริน เพราะมีผลต่อการทำงานของเกล็ดเลือด ซึ่งอาจทำให้เกิดภาวะเลือดออกและทำให้อาการป่วยรุนแรงขึ้นได้
การป้องกัน : การป้องกันโรคไข้เลือดออก ทำได้โดยกำจัดพาหะนำโรคอย่างยุงลายบ้านและยุงลายสวนที่ออกหากินในเวลากลางวันเป็นหลัก รวมถึงการดูแลรักษาสุขภาพและการใช้ชีวิต เช่น สวมใส่เสื้อผ้ามิดชิดและสีสว่าง หากต้องออกไปทำกิจกรรมในพื้นที่ที่มียุงชุมหรือพื้นที่ที่มีไข้เลือดออกระบาด ทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ยุง แหล่งน้ำขังต่างๆ
พรีเมียร์ โฮม เฮลท์ แคร์ ให้บริการทางการแพทย์ถึงบ้าน อาทิ กายภาพบำบัดถึงบ้าน บริการเฝ้าไข้ เป็นต้น โทร 02246 6124